ฮอนด้า เดินหน้าสร้างสังคมปลอดมลพิษและอุบัติเหตุให้สังคมไทย ผ่านโครงการ “โรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยกับฮอนด้า” เป็นปีที่ 17 ตามทิศทางการดำเนินธุรกิจเป้าหมายฮอนด้าปี พ.ศ. 2593 (Honda Target 2050)

17 มิถุนายน 2565

News Image
News Image
News Image
/
กรุงเทพฯ – 17 มิถุนายน 2565 - บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อโครงการ “Honda Dream School โรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยกับฮอนด้า” เป็นปีที่ 17 เพราะฮอนด้าเชื่อว่าการปลูกฝังเรื่องความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและความมีวินัยจราจรเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนควรเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจให้นักเรียนและผู้ปกครองในการกลับมาใช้ชีวิตวิถีใหม่รับการเปิดเรียนอย่างเต็มรูปแบบ

โครงการฯ มีเป้าหมายในการสร้างและปลูกฝังจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยแก่เยาวชนและชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ ปีนี้ พนักงานฮอนด้าจิตอาสาได้รวมกลุ่มทำการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมของ 3 โรงเรียน ทั้งโรงเรียนวัดบำเพ็ญเหนือ จ.กรุงเทพมหานคร โรงเรียนวัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงเรียนบ้านหนองปรือน้อย จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้โรงเรียนมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการจราจรและการใช้ชีวิตของนักเรียนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งกิจกรรมนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวไปสู่เป้าหมายฮอนด้าในปี 2593 ในด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย  เพื่อสร้างสังคมปลอดมลพิษ (Carbon Neutrality) และสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุและลดการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ฮอนด้าทั่วโลกให้เป็นศูนย์  (Zero Traffic Collision Fatalities)

 
News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
/
กิจกรรมในปีนี้ ประกอบด้วย
  1. ด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนและชุมชน อาทิ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวของโรงเรียน ทั้งสวนหย่อมสมุนไพร ศูนย์เรียนรู้ทางเกษตร และห้องเรียนธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนได้เรียนรู้ในสถานที่จริง รวมถึงการส่งเสริมจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม โดยจัดตั้ง “ธนาคารขยะ” เพื่อส่งเสริมการแยกขยะให้ถูกต้องและเพิ่มมูลค่าด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างถูกวิธี ฯลฯ
  2. ด้านความปลอดภัย เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ถนนและเส้นทางจราจรต่างๆ ในช่วงการเข้าเรียนและเลิกเรียน อาทิ ปรับปรุงและทาสีทางม้าลายและฟุตบาทบริเวณหน้าโรงเรียน สร้างรั้วกั้นริมถนนหน้าโรงเรียน ติดตั้งป้ายจราจรเพิ่มเติม ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนเงินทุนสำหรับการดำเนินโครงการที่ริเริ่มและดำเนินการเองในแต่ละโรงเรียน โดยยึดหลักความปลอดภัยในการใช้ชีวิตช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาทิ โครงการอาหารกลางวัน ด้วยอาหารที่มีคุณค่าครบ 5 หมู่ สะอาดและถูกสุขอนามัย การสร้างฉากป้องกันสำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร การสร้างจุดล้างมือเพิ่มความสะอาดหลังทำกิจกรรมต่าง ๆ การปรับปรุงห้องสมุดให้เอื้อต่อการค้นคว้า รวมถึงพื้นที่สันทนาการสำหรับทำกิจกรรมนอกห้องเรียน และโรงเรือนน้ำหมักชีวภาพ ฯลฯ
 
นางสาววรรณิดา พรหมพุฒ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบำเพ็ญเหนือ จ.กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “การดำเนินงานโครงการโรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยกับฮอนด้า มีการจัดการให้เอื้อต่อการเรียนการสอนทั้งความสะอาด สวยงามน่าอยู่ และความปลอดภัย โรงเรียนมีพื้นที่จัดกิจกรรมที่หลากหลายและเอื้อต่อการเรียนรู้ ครูสามารถพัฒนากระบวนการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติตามความถนัดและความสนใจ รวมทั้งประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน  และยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจให้ผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานมาเรียนหลังสถานการณ์โควิด นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับคนในชุมชนอย่างยั่งยืนอีกด้วย”

 
ฮอนด้ามุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์สังคมไทย เพื่อที่จะก้าวสู่สังคมปลอดมลพิษและสังคมปลอดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายของฮอนด้าในปี 2593 ได้อย่างยั่งยืน
 

ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

News Image

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผนึกกำลังผู้แทนจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ส่งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ รวมมูลค่าความช่วยเหลือ กว่า 4.3 ล้านบาท พร้อมมอบสิทธิ์สำหรับรถที่ประสบอุทกภัย อาทิ ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% หรือตรวจเช็กสภาพรถฟรี

2 กันยายน 2567

News Image

มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมสร้างโป่งช้าง ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 11

15 สิงหาคม 2567

อัปเดตข่าวสารใหม่ๆ
ที่คุณไม่ควรพลาด!

Back to top

แชทกับเซลส์

Back to top