ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ เปิดมิติใหม่ตลาดเอสยูวีกับขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่มาพร้อม Honda SENSING ทั้งไลน์อัป พร้อมมอบพลังที่สมบูรณ์แบบของวันนี้เพื่อขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้า
5 พฤศจิกายน 2564
เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทาง Facebook Fanpage และ YouTube Channel: Honda Thailand ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป พร้อมทั้งเตรียมสัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า (A14) ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (Motor Expo 2021) ตั้งแต่วันที่ 2 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/hrvehev
หมายเหตุ
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
- อีกขั้นของสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่ลงตัวที่สุดในยุคปัจจุบัน กับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทั้งไลน์อัป มอบสมรรถนะอันทรงพลัง ตอบสนองทันใจ และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม 25.6 กม./ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
- ครั้งแรกในโลกกับการเปิดตัวรุ่น RS ที่ประเทศไทย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟรอบคัน
- ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ครบครัน คงจุดเด่นความอเนกประสงค์กับเบาะนั่งด้านหลังที่ปรับพับได้ถึง 3 รูปแบบ
- สัมผัสกับยนตรกรรมระดับพรีเมียมได้อย่างมั่นใจ ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง**
- ราคาประมาณการเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท พร้อมเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 – 18 พฤศจิกายน 2564** ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2557 ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เข้ามาเปิดเซกเมนต์เอสยูวีขนาดกลาง และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถเอสยูวีให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวีที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเซกเมนต์นี้ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน”
”“จากความสำเร็จดังกล่าว ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่จะได้เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ และยังเป็นประเทศแรก ในโลกที่ได้เปิดตัวรุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟ โดยนับเป็นก้าวสำคัญที่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการผสานทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมเป็นยนตรกรรมเอสยูวีสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง”
”ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์เอสยูวีได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL) และกระจังหน้าสีดำเงา (รุ่น e:HEV E) ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น อีกทั้งสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL) สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย
- Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
- Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
- Tall Mode: เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียง ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้
อีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
นอกจากนี้ ทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่
- ECON Mode: โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการ ขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
- Normal Mode: โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
- Sport Mode: โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,200,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,100,000 บาท
- รุ่น e:HEV E ราคาประมาณการต่ำกว่า 990,000 บาท
เสริมความมั่นใจในการขับขี่ยนตรกรรมระดับพรีเมียม โดย ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม
การรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ
ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กระแสแรง! ฮอนด้า เปิดจำหน่าย ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ พร้อมให้ลูกค้าเข้าถึง SUV ยอดนิยม ด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัว เพียง 899,000 บาท พบกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 และงาน Motor Expo ตั้งแต่ 29 พ.ย. 67 – 10 ธ.ค. 67
8 พฤศจิกายน 2567
ขอบคุณความเชื่อมั่นที่มีต่อ ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ ด้วยยอดจองสิทธิ์กว่า 3,000 คัน ตอกย้ำความเป็นรถ SUV ยอดนิยม
22 ตุลาคม 2567