ฮอนด้า ชูไฮไลต์ 3 รุ่น ในงาน Motor Show 2023 ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ และเปิดราคา ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ พร้อมด้วยยนตรกรรมฮอนด้ารุ่นอื่น ๆ และข้อเสนอสุดพิเศษในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
21 มีนาคม 2566
ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ฮอนด้าได้เปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่ถึง 2 รุ่น เติมเต็มไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดเอสยูวีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้นำมาจัดแสดงเป็นไฮไลต์ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ได้แก่ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง และฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 ที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีขนาดใหญ่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตแข็งแกร่งทุกมิติ กับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ครั้งแรกกับระบบฟูลไฮบริด e:HEV อันทรงพลังในซีอาร์-วี และขุมพลังเบนซินเทอร์โบ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย พร้อมทั้งอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฟน ๆ ฮอนด้ารอคอยกับฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ (Civic Type R) ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต สุดเอกซ์คลูซีฟ ที่ได้นำมาจัดแสดงในงานนี้และเปิดรับจองสิทธิ์จำนวนจำกัดอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป
”- ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมสปอร์ตเอสยูวี 5 ที่นั่ง ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายและสร้างคุณค่าใหม่ให้ตลาดเอสยูวีอีกครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มีสไตล์ แข็งแกร่ง และให้ความรู้สึกพรีเมียม ทันสมัย ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ แรงได้สุดสนุกได้ทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดี 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัยมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ* มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS ราคา 869,000 บาท และรุ่น SV ราคา 799,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566**
- ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีขนาดใหญ่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ครั้งแรกกับขุมพลังการขับเคลื่อนระบบฟูลไฮบริด e:HEV อันทรงพลังใน ซีอาร์-วี ใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85 มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่หลากหลาย มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย กับ 2 ขุมพลังทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบและระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นในรุ่น e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง รวมทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566
ภายนอก
- Gloss Black Rear Spoiler
รูปทรงและมุมของสปอยเลอร์ผ่านการทดสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้สมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม ฐานยึดเป็นอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปน้ำหนักเบา ไม่เพียงให้ลุคสปอร์ต แต่ยังสร้างแรงกด Downforce ที่ทรงพลัง และช่วยลดแรงต้านอากาศ (Drag) ให้ต่ำลง เพื่อให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ดีขึ้น - Front Fender Outlet
บังโคลนหน้าดีไซน์ให้มีช่องระบายอากาศ ช่วยระบายแรงดันออกทางด้านข้าง - Gloss Black Front Spoiler
ขอบของสปอยเลอร์หน้า ทั้งด้านซ้ายและขวา ได้รับการออกแบบมาให้ควบคุมการไหลของลม เพื่อช่วยเสริมแรงกด Downforce และกระจังหน้าส่วนล่างที่ออกแบบเป็นตาข่าย ยังช่วยดึงลมเข้าสู่จุดศูนย์กลางและช่วยลดค่าแรงเสียดทานอีกด้วย - Gloss Black Rear Diffuser
ด้านล่างของ Rear Diffuser ได้รับการออกแบบให้ลาดลึกลงไปถึงล้อหลัง เพื่อช่วยสร้างแรงกด Downforce รวมทั้งรูปทรงและตำแหน่งของครีบยังช่วยเรื่องการทรงตัว และรูปทรงของ Diffuser ในส่วนที่อยู่ใกล้กับล้อ ช่วยลดแรงดันที่เกิดขึ้นภายในซุ้มล้อหลัง - Gloss Black Side Sill Garnish
ส่วนปลายของชายสเกิร์ตด้านข้าง มีการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลของลมในบริเวณด้านหน้าของล้อหลัง - ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ไฟท้ายแบบ LED
- ชุดท่อไอเสียแบบ Center Triple พร้อมปลอกท่อไอเสีย
- ล้ออัลลอย 19 นิ้ว
- ตอกย้ำความสปอร์ตด้วยสีภายใน แดง/ดำ
- เบาะนั่งสปอร์ตแบบ Type R
- พวงมาลัยหุ้มหนังกลับแบบ Type R
- คอนโซลกลางและหัวเกียร์ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม
- สะท้อนความภาคภูมิใจของผู้ครอบครองด้วย Serial Number Plate หมายเลขที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนป้าย Type R
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card
- ระบบเชื่อมต่อ Honda LogR
- ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40
- + R MODE
- SPORT MODE
- COMFORT MODE
- INDIVIDUAL MODE
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
- เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด
- ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
- ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
- ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า (Dual Knee Airbags)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
นำโดยไลน์อัปยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี และฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี และไลน์อัปยนตรกรรมเทอร์โบ ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก และฮอนด้า ซีวิค พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลายนำโดย ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่
จะได้รับของที่ระลึกจากฮอนด้า**
ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
1 ธันวาคมนี้ เตรียมสัมผัสกองทัพรถยนต์ฮอนด้า พร้อมกองทัพโปรโมชันสุดพิเศษ ไปกับพระเอกหนุ่ม “กองทัพ พีค” ที่บูทรถยนต์ฮอนด้า ในงาน Motor Expo 2024 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
27 พฤศจิกายน 2567
ฮอนด้าประกาศจัด “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025” ทัวร์นาเมนต์ยิ่งใหญ่ระดับโลก เป็นปีที่ 18 พบกัน 20-23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา
14 พฤศจิกายน 2567