แองเจิล หยิน มืออันดับ 17 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี รวมหวด 4 วัน 28 อันเดอร์พาร์ สร้างสถิติใหม่ของรายการนี้และแอลพีจีเอทัวร์ เฉือนอันดับ 2 อากิเอะ อิวาอิ มืออันดับ 33 ของโลกจากญี่ปุ่นเพียงสโตรคเดียว ส่วนนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานดีที่สุดคือ จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล ได้อันดับ 3 ส่วน แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์เก่า กับ โม-โมรียา จุฑานุกาล ได้อันดับที่ 4 ร่วม

แองเจิล หยิน มืออันดับ 17 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา วัย 26 ปี ผู้นำหลังจบวันที่ 3 มี 21 อันเดอร์พาร์ นำหน้า อากิเอะ อิวาอิ มืออันดับ 33 ของโลกจากญี่ปุ่นอยู่ถึง 5 สโตรค เล่นได้อย่างมั่นใจ เก็บ 3 เบอร์ดี้ติดต่อกันที่หลุม 3, 4 และ 5 ก่อนจะได้อีก 3 เบอร์ดี้ติดกันอีกครั้งที่หลุม 13, 14 และ 15 จากนั้นหวดประคองเก็บเบอร์ดี้สุดท้ายที่หลุม 18 จบที่ 7 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 4 วัน 28 อันเดอร์พาร์ (67-64-64-65) 260 คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ไปครองพร้อมเงินรางวัล 255,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,542,500 บาท)

แองเจิล หยิน เป็นนักกอล์ฟอเมริกัน คนที่ 4 ที่ได้แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ต่อจาก เล็กซี ธอมพ์สัน (แชมป์ปี 2016) เจสซีกา คอร์ด้า (แชมป์ปี 2018) และ ลิเลีย วู (แชมป์ปี 2023) สำหรับสกอร์ 28 อันเดอร์พาร์ 260 ของ แองเจิล หยิน เป็นสถิติใหม่ของการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ทำลายสถิติของ นานนา เคิร์สต์ แมดเซน มืออันดับ 75 ของโลกจากเดนมาร์กแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022 ที่ทำไว้ 26 อันเดอร์พาร์ เท่ากับ แจเนต-ซียู หลิน จากจีน และทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลของ แอลพีจีเอทัวร์ ที่ แอนนิกา โซเรนสตัม อดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกชาวสวีเดน ทำไว้ 27 อันเดอร์พาร์ 261 ในการแข่งขัน สแตนดาร์ด รีจิสเตอร์ ปิง 2001 และเซยอง คิม นักกอล์ฟชาวเกาหลีใต้ ทำไว้ 27 อันเดอร์พาร์ เช่นกันในรายการฟาวเดอร์ส คัพ ปี 2016

ในขณะที่ อากิเอะ อิวาอิ มืออันดับ 33 ของโลกจากญี่ปุ่น ผู้นำ 2 วันแรก ก่อนจะมาแผ่วในวันที่ 3 จนตกลงมาอยู่อันดับ 2 พยายามเร่งฟอร์มด้วยการทำ 10 เบอร์ดี้ใน 15 หลุม ก่อนจะมาเสียโบกี้ที่หลุม 17 แต่สามารถสร้างความประทับใจให้แฟนกอล์ฟด้วยการทำอีเกิ้ลที่หลุม 18 ทำได้ 11 อันเดอร์พาร์ (สกอร์เป็นสถิติต่ำสุดต่อรอบของรายการนี้)  สกอร์รวม 4 วัน 27 อันเดอร์พาร์ (62-67-71-61) 261 ได้รองแชมป์ด้วยความพ่ายแพ้เพียงสโตรคเดียว  
 

แองเจิล หยิน ที่คว้าแชมป์ที่ 2 ของแอลพีจีเอทัวร์ให้กับตนเอง เปิดเผยว่า การเล่นวันสุดท้ายไม่ได้คิดว่าตัวเองได้เปรียบเลยเพราะว่า อากิเอะ อิวาอิ ตีได้ดีมาก เช่นเดียวกับ จีโน่ และ โมรียา ที่เล่นได้ดีเช่นกัน โดยการเล่นที่หลุม 18 ก็มีความตื่นเต้นอย่างมาก เพราะ อากิเอะ อิวาอิ ทำอีเกิ้ลต่อหน้าแฟน ๆ ที่ส่งเสียงเชียร์ แต่ตัวเองก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จในหลุมสุดท้าย สำหรับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งแรกเพราะตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เล่นได้ดีและรู้สึกผ่อนคลายพอสมควร จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จในครั้งนี้
 

สำหรับนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานดีที่สุดคือ จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล มืออันดับ 2 ของโลก ที่พลาดทำดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 2 ก่อนจะทำ 8 เบอร์ดี้ที่หลุม 3, 7, 8, 10, 13, 15, 16 และ18 จบที่ 6 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 4 วัน 21 อันเดอร์พาร์ (68-64-69-66) 267 ได้อันดับ 3 ไปครอง รับเงินรางวัล 114,750 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.8 ล้านบาท)

จีโน่-อาฒยา กล่าวว่า เกมช่วงแรกยังไม่ได้บุกเต็มตัวเท่าใดนัก แต่ผลที่ออกมาถือว่าทำได้ตามเป้าหมายแล้ว และไม่เสียใจที่ไม่ได้แชมป์ เพราะเป็นเรื่องของจังหวะและเวลา  กีฬาก็เป็นแบบนี้ มีแพ้ มีชนะ แต่สำหรับตนเองก็ยังมีอีกหลายจุดที่ยังต้องแก้ไขและพัฒนาในการแข่งขันรายการต่อไป

โม-โมรียา จุฑานุกาล มืออันดับ 120 ของโลก รองแชมป์ร่วม ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 ที่อยู่อันดับ 3 ร่วม หลังจบ 3 วันทำ 5 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ จบที่ 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 19 อันเดอร์ (66-66-69-68) 269  ได้อันดับ 4 ร่วมกับ แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 มืออันดับ 25 ของโลก ที่เร่งเครื่องวันสุดท้าย ทำ 7 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 4 วัน 19 อันเดอร์พาร์ (71-68-65-65) 269     

โม-โมรียา กล่าวว่า วันสุดท้ายเล่นได้ดีตามที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ และไม่ได้คิดถึงอันดับมากนัก โดยรอบสุดท้ายนี้ สนามนุ่มแต่กรีนยังคงสปีดเร็วเหมือนเดิม ขอบคุณแฟนกอล์ฟทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจ ทำให้เล่นกอล์ฟได้อย่างสนุกมาก ๆ